ผลเลือกตั้งไอซ์แลนด์: พรรคโจรสลัดมาแรง มีลุ้นได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล

การเลือกตั้งผู้แทนของสภาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอย่าง “ไอซ์แลนด” มีขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (29 ต.ค.) ผลปรากฏว่า พรรคโจรสลัด หรือ “พรรคไพเรท” (Pirate Party) ได้ที่นั่งเพิ่มขึ้นจนไต่มาเป็นพรรคการเมืองอันดับสอง และทำให้พรรคฝ่ายซ้ายพรรคเล็กหลายพรรคมีลุ้นที่จะรวมตัวกันตั้งรัฐบาลได้

พรรคไพเรทก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2012 ได้ชื่อว่าเป็นพรรคนอกคอกและเป็นทางเลือกใหม่ เป็นกลุ่มคนขบถที่ส่งเสริมเรื่องการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร เกือบครึ่งของผู้สนับสนุนพรรคไพเรทมีอายุต่ำกว่า 30 ปี พรรคมีนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สนับสนุนรัฐบาลที่โปร่งใส ปฏิรูประบบหลักประกันสุขภาพ เสริมความเข้มแข็งของปัจเจกบุคคล ส่งเสริมประชาธิปไตยทางตรง ตัวอย่างหนึ่งในกิจกรรมคือการทำ “crowd-sourced constitution” หรือร่างรัฐธรรมนูญที่เขียนจากประชาชนด้วยวิธีระดมความเห็นออนไลน์

เมื่อคะแนนเลือกตั้งประกาศออกมา ทำให้ Sigurdur Ingi Johannsson นายกรัฐมนตรีไอซ์แลนด์ประกาศลาออกจากตำแหน่ง เพราะพรรคโพรเกรสซีฟ (Progressive Party) พรรคฝ่ายขวา-กลาง ที่เขาเป็นสมาชิกอยู่ ได้ที่นั่งในสภาไปแค่ 8 ที่นั่ง ร่วงกราวจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2013 ที่เคยได้ถึง 19 ที่นั่ง

และหากยังจำกันได้ Johannsson เข้ามารับตำแหน่งต่อจากนาย Sigmundur David Gunnlaugsson ซึ่งประกาศลาตำแหน่งไปเมื่อเดือนเมษายน เพื่อแสดงความรับผิดชอบหลังชื่อของเขาไปอยู่ในเอกสารปานามาเปเปอร์ที่หลุดออกมา ว่าเป็นนักการเมืองที่หลบเลี่ยงการเปิดเผยทรัพย์สิน

อย่างไรก็ดี ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ออกมาว่า พรรคอินดิเพนเดนซ์ (Independence) พรรคการเมืองสายอนุรักษ์นิยม ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลร่วมกับพรรคโพรเกรสซีฟ ยังคงได้ที่นั่งมาเป็นอันดับหนึ่ง คือได้จำนวน 21 ที่นั่ง

สำหรับพรรคไพเรท แม้ไม่ได้ที่หนึ่งแต่ก็ตกอยู่ในความสนใจที่ใครๆ ก็จับตามอง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีกระแสเบื่อนักการเมืองขี้โกงที่ทำให้พรรคเล็กพรรคทางเลือกขึ้นมามีบทบาท โดยในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคไพเรทคว้าไปได้ 10 ที่นั่ง ทำให้พรรคขึ้นแท่นเป็นพรรคการเมืองอันดับสอง และถือว่ามีพัฒนาการก้าวกระโดดเพราะเมื่อคราวเลือกตั้งปี 2013 ได้ที่นั่งมาเพียง 3 ที่นั่งเท่านั้น

ทั้งนี้ หากรวมพรรคการเมืองฝ่ายซ้าย-กลางทั้งหมด คือ พรรคกรีน พรรคไพเรท และอีกสองพรรคเล็ก จะสามารถรวมที่นั่งได้ทั้งหมด 27 ที่นั่ง ขาดอีกนิดเดียวก็จะได้ 32 ที่นั่งซึ่งเป็นจำนวนที่จะสามารถร่วมรัฐบาลเป็นเสียงข้างมากในสภาได้

งานนี้ทำให้อำนาจต่อรองในการเมืองไอซ์แลนด์ตกไปอยู่ในมือพรรคเล็ก ซึ่งคือ พรรครีเจเนเรชั่น (Regeneration Party) พรรคการเมืองสายลิเบอรัล กลายเป็นตัวแปรสำคัญของเกม ว่าจะไปเข้าร่วมกับกลุ่มใด

อย่างไรก็ดี ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่มีประชากรน้อยนิดเดียว นิวยอร์กไทม์สเทียบตัวเลขให้เห็นว่า ความแตกหักในการเมืองที่แต่ละพรรคแย่งชิงเสียงเลือกตั้งนี้ มันเถียงกันบนจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 260,000 คน หรือคิดเป็นสนามอเมริกันฟุตบอลจำนวนสามสนามเท่านั้นเอง

ที่มา: