เชือดจนฉี่ราด โรงงานชำแหละไก่สหรัฐฯ ห้ามคนงานเข้าห้องน้ำ

สหรัฐฯ ผงะ คนงานโรงงานชำแหละไก่ต้องฉี่รดกางเกงเพื่อให้ทำงานได้มากขึ้น ส่วนงานอีกชิ้นพบส่วนผสมของเนื้อหนูและดีเอ็นเอมนุษย์ในแฮมเบอร์เกอร์

โรงงานชำแหละไก่ในสหรัฐชำแหละไก่วันละ 180,000 ตัว คนงานหนึ่งคนต้องจัดการไก่ 40 ตัวต่อนาที อุตสาหกรรมที่เร่งรีบขนาดนี้ทำให้คนงานส่วนหนึ่งต้องยืนฉี่ราดขณะทำงาน

ที่เป็นเช่นนี้ เพราะคนงานต้องติดอยู่ในสายพาน ไม่สามารถปลีกตัวไปเข้าห้องน้ำ บางคนฉี่ราดขณะทำงาน บางคนตัดสินใจใส่ผ้าอ้อมไปทำงานเพื่อหลีกเลี่ยงการฉี่รดกางเกง

ด้านมืดของอุตสาหกรรมสัตว์ปีกนี้ถูกเปิดเผยโดยองค์กรอ็อกแฟมอเมริกาซึ่งทำงานเกี่ยวกับปัญหาความยากจนและความเสมอภาค มีคนงานกว่า 250,000 คนทั่วสหรัฐฯ อยู่ในสภาพการทำงานที่ทั้งสกปรกและอันตราย ได้ค่าจ้างต่ำ แถมยังเสียสุขภาพ

มีคนงานจำนวนมากที่เล่าว่า เคยยืนทำงานจนฉี่ราด หรือเห็นเพื่อนร่วมงานยืนฉี่ราด เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ทำให้รู้สึกอับอายและลดค่าในตัวเอง แต่มันกระเทือนต่อสุขภาพที่ต้องทำงานภายใต้กางเกงเปียกฉี่ในโรงงานที่อากาศหนาวจัด

ที่ย้อนแย้งคือ โรงงานไก่ที่ไม่ยอมให้คนงานเข้าห้องน้ำ ก็โฆษณาตัวเองว่าดูแลไก่เป็นอย่างดี แถมยังเลี้ยงไก่ด้วยอาหารมังสวิรัติด้วย

หลายรัฐในสหรัฐอเมริกามีปัญหานี้ เช่นนอร์ทแคโรไลนาที่กลุ่มคนงานของโรงงานที่ส่งไก่ให้ KFC รณรงค์เรียกร้องสิทธิในการไปเข้าห้องน้ำเมื่อปวด ส่วนที่รัฐแอละแบมาซึ่งเก็บข้อมูลจากคนงานหลายร้อยคน ก็พบว่า คนงาน 4 ใน 5 ให้ข้อมูลว่าไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าห้องน้ำ ที่มินนิโซตาคนงานร้อยละ 86 ให้ข้อมูลว่าได้พักเข้าห้องน้ำเพียง 2 ครั้งในหนึ่งสัปดาห์ ส่วนที่รัฐมิสซิสซิปปีก็มีกรณีที่นายจ้างปรับเงินคนงานที่ขอไปเข้าห้องน้ำ

แฮมเบอร์เกอร์เจือปนเนื้อหนูและ DNA มนุษย์

นอกจากนี้ ยังมีรายงานอีกชิ้นหนึ่งในธุรกิจฟาสต์ฟู้ดในสหรัฐอเมริกา ที่เก็บตัวอย่างแฮมเบอร์เกอร์ 258 ชิ้นมาตรวจ ปรากฏว่าพบเนื้อหนูและดีเอ็นเอมนุษย์อยู่ในเบอร์เกอร์ ซึ่งคาดว่ามาจากเศษเล็บและเส้นผม

ส่วนเบอร์เกอร์มังสวิรัติ ที่ไม่ควรจะมีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ ก็กลับพบว่า มีส่วนผสมของเนื้อวัว ไม่เพียงเท่านั้น หนึ่งในแฮมเบอร์เกอร์มังสวิรัติที่โฆษณาว่าทำจากถั่วดำนั้น ไม่มีส่วนผสมของถั่วดำเลย

แต่ในเรื่องสะพรึงกลัวก็ยังมีเรื่องดีๆ อยู่บ้าง รายงานพบว่าในเบอร์เกอร์ 258 ชิ้น มีจำนวน 12 ชิ้นที่ให้พลังงานน้อยกว่าที่ระบุในฉลาก 100 แคลอรี

เรื่องนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องดีๆ สำหรับคนห่วงสุขภาพ

ที่มา: QUARTZ, Independent, U.S. Equal Employment Opportunity Commission, Oxfam

ภาพจาก: Steven Depolo