ภาพจาก BBC
ที่ประเทศอูกันดา มีเครื่องฉายรังสีสำหรับรักษาผู้ป่วยมะเร็งอยู่เพียงแค่เครื่องเดียว แต่ล่าสุด เครื่องดันพังลงเสียแล้ว ทางออกเพียงหนึ่งเดียวสำหรับผู้ป่วย คือต้องเดินทางไปรักษาตัวที่ประเทศเคนยา
วิกตอเรีย อักแวร์ ผู้ป่วยมะเร็งในอูกันดา ขายที่ดินเพื่อมารักษาตัว แต่ต้องผิดหวังและทุกข์กับโรคภัยต่อไป เมื่อพบว่า เครื่องฉายรังสีพังไปแล้ว และตัวเธอเองก็ไม่มีเงินจะจ่ายสำหรับการเดินทางไปรักษาที่อื่น หรือเอาเข้าจริงแล้ว เธอไม่มีแม้กระทั่งค่ารถกลับบ้านหลังจากออกจากโรงพยาบาลในเมืองหลวง
แม้การรักษามะเร็งอาจจะยังมีแนวทางอื่นๆ ที่ทำได้ แต่สถาบันมะเร็งระบุว่า ร้อยละ 75 ของผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ 44,000 คน ต้องการการรักษาด้วยวิธีการฉายรังสี ดังนั้น การที่เครื่องเพียงหนึ่งเดียวของประเทศเสีย จึงถือเป็นปัญหาใหญ่เวลานี้
เครื่องฉายรังสีเพื่อรักษามะเร็งที่ใช้อยู่นั้น ได้รับบริจาคมาตั้งแต่ปี 2538 จนตอนนี้เครื่องเสียมาได้ปีกว่าแล้ว รัฐบาลอูกันดาอ้างว่าได้จัดซื้อเครื่องฉายรังวีเครื่องใหม่แล้ว คาดว่าตัวเครื่องน่าจะพร้อมใช้ใน 6 เดือนข้างหน้าหลังจากสร้างห้องสำหรับอุปกรณ์ฉายแสงเสร็จสิ้น
รัฐบาลอูกันดากล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะอุดหนุนให้ผู้ป่วยมะเร็ง 400 คนสามารถเดินทางไปรักษาในประเทศอื่นได้ แต่ผู้ป่วยที่เหลือต้องหาทางด้วยตนเอง
อลิซาเบ็ธ มูกาลู เผชิญกับมะเร็งเต้านมมาตั้งแต่ปี 2553 กล่าวว่า ในการเดินทางไปรักษาตัวที่ประเทศเพื่อนบ้าน เช่นไปที่ไนโรบี เมืองหลวงของประเทศเคนยา ค่าใช้จ่ายสำหรับการรักษาอยู่ที่ราว 35,000 บาท แต่ยอดนี้ยังไม่รวมค่าที่พัก อาหาร และค่าเดินทาง ซึ่งแน่นอนว่าประชากรในอูกันดาส่วนใหญ่ไม่สามารถแบกรับได้
เธอบอกว่า ผู้นำประเทศไม่รู้ว่าประชาชนต้องผ่านอะไรมาบ้างเพราะข้อเท็จจริงคือเมื่อคนใหญ่คนโตเจ็บป่วย เขาไม่รักษาตัวในอูกันดา เพราะถ้าพวกเขาเหล่านั้นไปใช้บริการโรงพยาบาลในอูกันดา เขาจะเข้าใจสภาพปัญหาอย่างแน่นอน
ด้านข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า รัฐบาลอูกันดา ใช้งบประมาณรัฐเพื่อใช้จ่ายด้านสุขภาพน้อยที่สุดในหลายประเทศทของทวีปแอฟริกาตะวันออก
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ BBC
