"เลนี โรเบรโด" ทนายหญิงนักสิทธิฯ นั่งเก้าอี้รองประธานาธิบดีฟิลิปปินส์

เป็นทางการแล้ววันนี้ “เลนี โรเบรโด” นักการเมืองหญิงและทนายความด้านสิทธิมนุษยชน รับตำแหน่งรองประธานาธิบดี ทำงานคู่กับประธานาธิบดี “โรดดิโก ดูเตอร์เต” มือปราบจอมโหด ที่ไม่ทันไรก็ดักทางไว้แล้วว่า ยังไม่คิดจะมอบหมายตำแหน่งอะไรให้กับเธอ

หลังใช้เวลานับคะแนนเกือบ 3 สัปดาห์ ในวันนี้ (30 พ.ค.) สภาฟิลิปปินส์จะประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แม้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า “โรดดิโก ดูเตอร์เต” ได้นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีอย่างไม่ต้องสงสัยเพราะคะแนนทิ้งห่างจากคู่แข่งคนอื่นๆ แต่อีกตำแหน่งที่ลุ้นกันตัวโก่ง คือตำแหน่ง “รองประธานาธิบดี” ที่ผู้เข้าชิง 2 คนได้รับคะแนนสูสีเฉียดกันไปแค่ปลายก้อย ผลออกมาเป็นทางการแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 พ.ค.) ว่า “เลนี โรเบรโด” จากพรรคเสรีนิยม ได้รับตำแหน่งเป็นรองประธานาธิบดี

เลนี โรเบรโด สมาชิกรัฐสภาหญิงวัย 52 ปี จากพรรคเสรีนิยม ได้รับเลือกตั้งเป็นรองประธานาธิบดีด้วยคะแนน 14.3 ล้านเสียง ชนะคู่แข่งคนสำคัญ คือ วุฒิสมาชิก เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ลูกชายของเผด็จการมาร์กอส ที่ได้รับคะแนนเสียงไป 14 ล้านเสียง หรือห่างกันแค่ 260,000 เสียงเท่านั้น

การเมืองฟิลิปปินส์ในเวลานี้จึงกลายเป็นภาพขัดแย้ง เพราะผู้นำประเทศทั้งสองคนมีคุณลักษณะที่ต่างกันสุดขั้ว คนหนึ่งมีท่าทีเหยียดเพศ เน้นความสงบเรียบร้อย ว่าต้องมาก่อนสิทธิมนุษยชน ขณะที่อีกคนเป็นทนายความหญิงนักเคลื่อนไหวทางสังคม และทำงานต่อสู้ด้านสิทธิมนุษยชน และทั้งคู่มาจากพรรคการเมืองคู่แข่ง

เลนี โรเบรโด จากพรรคเสรีนิยม เป็นสมาชิกรัฐสภาจากจังหวัดคามาริเนส ซูร์ (Camarines Sur) อดีตประธานาธิบดี เบนิกโก อาคิโน ที่ 3 ชวนเธอให้มาลงสนามแข่งขันชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีเพื่อเป็นทีมเดียวกับ มาร์ โรฮาส คู่แข่งคนสำคัญของดูเตอร์เต

ก่อนหน้านี้ โรเบรโดประกาศไว้แล้วว่า เธอจะสนับสนุนดูเตอร์เต ผู้ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งเอเชีย” และยังเน้นนโยบายปราบปรามอาชญากรรมและการคอร์รัปชั่นภายใน 3 ถึง 6 เดือน แต่โรเบรโดก็ได้บอกเช่นกันว่า เธอคงจะไม่เห็นด้วยกับบางจุดยืนของเขา นโยบายที่ดูเตอร์เตประกาศว่าจะฟื้นคืนโทษประหารชีวิต คงเป็นเรื่องที่สองผู้นำไม่มีทางจะเห็นตรงกันได้

ดูเหมือนเริ่มต้นมาก็เริ่มยากแล้ว เพราะเวลานี้ คนเริ่มสนใจว่า เมื่อดูเตอร์เตเริ่มงานในฐานะประธานาธิบดี คณะรัฐมนตรีของเขาจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร เขาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า เขาแทบไม่ได้คิดเลยว่าจะให้โรเบรโดดำรงตำแหน่งไหนในคณะรัฐบาล แต่บอกเพียงว่า ก็คงให้ดำรงตำแหน่งสักอย่างที่ฟังแล้วดูดี

ในฟิลิปปินส์ ตำแหน่งรองประธานาธิบดีไม่มีบทบาทหน้าที่อย่างเป็นทางการ ยกเว้นทำหน้าที่แทนประธานาธิบดีในกรณีที่ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ แต่โดยธรรมเนียบที่ผ่านมา รองประธานาธิบดีก็มักจะได้รับหน้าที่และตำแหน่งสำคัญในคณะรัฐมนตรีบ้าง

ดูเตอร์เตบอกว่า เขาแทบไม่ได้คิดถึงโรเบรโด เพราะตอนนี้เขาต้องเอาเพื่อนๆ คนรอบตัวที่มีบุญคุณกับเขาให้เข้ามารับตำแหน่งในคณะรัฐบาลก่อน ที่ต้องทำแบบนี้เพราะเขาจำเป็นต้องเลือกคนที่เขาเชื่อใจได้เข้ามาทำงาน

เนื่องจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีกับรองประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์นั้นแยกจากกัน เลนี โรเบรโด เป็นรองประธานาธิบดีคนที่ 15 ซึ่งจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา นอกจากโรเบรโดแล้ว มีรองประธานาธิบดีอีก 5 คนที่มาจากคนละพรรคกับประธานาธิบดี

ตัวอย่างหนึ่งคือ ดิออสดาโด มาคาปากัล (บิดาของ กลอเรีย มาคาปากัล อาร์โรโย) เมื่อปี 1957 ก็เป็นรองประธานาธิบดีคนแรกที่มาจากพรรคฝ่ายค้าน คู่แข่งกับประธานาธิบดีที่มาจากพรรคนาซิโอนาลิสตาซึ่งเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมที่เก่าแก่ที่สุดในฟิลิปปินส์ ในครั้งนั้น มาคาปากัลก็ได้รับข้อเสนอให้ดำรงตำแหน่งสำคัญในคณะรัฐมนตรี แต่มีเงื่อนไขว่าเขาต้องแปรพักตร์หันมาจงรักภักดีจ่อพรรคนาซิโอนาลิสตา แน่นอนว่าเขาปฏิเสธ เขาจึงเป็นรองประธานาธิบดีที่ได้แต่ทำหน้าที่ตัดริบบิ้นเปิดงาน ต่อมา 8 เดือนหลังเลือกตั้ง เขาก็ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเสรีนิยม และกลายเป็นผู้นำฝ่ายค้านอย่างเต็มตัวในขณะกำลังดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีนั่นเอง

เนื่องจากประธานาธิบดี เป็นผู้มีอำนาจกำหนดหน้าที่รองประธานาธิบดี หากมองแง่ดี ดูเตอร์เต กับ โรเบรโด ก็นับเป็นการเข้าคู่แบบที่ต่างฝ่ายต่างไม่มีคุณสมบัติที่อีกฝ่ายมีเลย แต่จะลงเอยทำงานด้วยกันได้หรือไม่นั้น คงต้องรอดูกันไปก่อน

…….
ที่มา: ABS-CBN News, NikkeI Asian Review, Inquirer, Rappler, Philstar Global

ที่มาภาพ: