Pro Sadr protesters stormed #Baghdad green zone and #Iraq parliament . pic.twitter.com/mWsk5jkfPC
— Lutfi Abu Aun (@lutfiabuaun) April 30, 2016
มุสลิมนิกายชีอะห์ในอิรักนับพันชุมนุมใหญ่ เข้ายึดสถานที่ราชการ ประท้วงนายกฯ ที่ชะลอการรับรองรัฐบาลชั่วคราว แต่ล่าสุด ผู้ชุมนุมทยอยออกจากพื้นที่ประท้วงแล้ว
จราจลเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (30 เม.ย.) เมื่อกลุ่มผู้ประท้วงมุสลิมนิกายชีอะห์ นับพันคน บุกยึดอาคารรัฐสภา และเขตกรีนโซน ซึ่งกินพื้นที่ราว 10 ตารางกิโลเมตร ที่ประกอบด้วยศูนย์ราชการและสถานทูต รัฐบาลก็ตอบโต้กลับด้วยมาตรการรุนแรง
การประท้วงเข้ายึดพื้นที่ครั้งนี้ เกิดขึ้นโดยประชาชนกลุ่มที่สนับสนุนนายมอคตาดา ซาดาร์ (Moqtada Sadr) ผู้นำศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์ ซึ่งไม่พอใจในตัวนายกรัฐมนตรีไฮเดอร์ อัล-อบาดี (Haider al-Abadi) ที่ปฏิบัติการล่าช้า ยังไม่ยอมแต่งตั้งผู้เหมาะสมเป็นคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ให้เข้ามาบริหารประเทศ ทำให้กลุ่มผู้ประท้วงไม่พอใจ และเห็นว่ารัฐบาลต้องแก้ปัญหาความเพิกเฉยนี้ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการต่อสู้กับกลุ่มไอเอสที่ยึดครองพื้นที่ทางตอนเหนือและภาคตะวันตกของประเทศ
เว็บไซต์ Huffington Post รายงานว่า การบุกยึดสถานที่ราชการในช่วงแรกเป็นไปโดยสงบ แต่ในช่วงเย็นของวันเสาร์ (30 เม.ย.) กองกำลังความมั่นคงเข้าปราบปรามผู้ชุมนุมโดยยิงแก๊สน้ำตาและยิงปืนขึ้นฟ้า จนทำให้ผู้ชุมนุมนับสิบรายได้รับบาดเจ็บ ตามมาด้วยการประกาศภาวะฉุกเฉิน
สำหรับประชาชนมุสลิมนิกายชีอะห์ที่ประท้วงนี้ เว็บไซต์บีบีซีรายงานว่า เป็นกลุ่มสนับสนุนกองกำลังเมห์ดี (Mehdi) ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นกลุ่มต่อต้านสหรัฐฯ ตั้งแต่กองกำลังที่นำโดยสหรัฐฯ เข้ายึดครองอิรักเมื่อปี 2546 นอกจากนี้ นายซาดาร์ ผู้นำของกลุ่มเคยถูกออกหมายจับเมื่อปี 2547 ในข้อหาฆาตกรรมผู้นำศาสนาที่เป็นปฏิปักษ์ กลุ่มของเขายังถูกกล่าวหาว่ากระทำการทารุณและเข่นฆ่ามุสลิมนิกายซุนนี นับพันคนในช่วงปี 2549-2550 ตัวนายซาดาร์เองหลบหนีออกจากอิรักในช่วงนั้น ก่อนจะกลับประเทศอีกครั้งในปี 2554 ด้วยท่าทีใหม่ที่เน้นการปรองดองและสันติภาพมากกว่าเดิม
สำหรับการประท้วงเมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา ในประเทศอิรักก็เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นหลายจุด โดยเกิดเหตุคาร์บอมบ์ใกล้มัสยิมของชาวชีอะห์ ในเขต นาห์ราวาน กรุงแบกแดด จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 23 ราย ซึ่งชาวซุนนีออกมาประกาศอยู่เบื้องหลังเหตุนี้
ในอีกจุดหนึ่ง เกิดระเบิดฆ่าตัวตายอีก 2 ลูก เมื่อวันที่ 1 พ.ค.59 ทางตอนใต้ของเมืองซามาวา (Samawa) โดยระเบิดลูกหนึ่งเกิดขึ้นที่อาคารราชการของภูมิภาค และอีกลูกหนึ่งระเบิดที่ป้ายรถเมล ทำให้มีผู้เสียชีวิต 33 รายและบาดเจ็บอีกกว่า 50 ราย ซึ่งกลุ่มไอเอสออกมาประกาศว่าอยู่เบื้องหลังเหตุนี้โดยจงใจพุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ที่มา: BBC, Huffington Post,
ภาพจาก: twitter @lutfiabuaun และ The Washington Post