การเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อหาตัวแทนพรรคเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวันอังคารที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา มีขึ้นใน 5 รัฐ คือ คอนเน็กติกัต เดลาแวร์ แมรีแลนด์ เพนซิลเวเนีย และไรดไอแลนด์ ซึ่งเป็นรัฐในฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ
คะแนนออกมาปรากฏว่า ฝั่งพรรครีพับลิกัน นายโดนัลด์ ทรัมป์มหาเศรษฐีคนดัง กวาดคะแนนชนะในทั้ง 5 รัฐ ส่วนพรรคเดโมแครตนั้น นางฮิลลารี คลินตันได้คะแนนสูงสุดไปใน 4 รัฐ ยกเว้นที่โรด ไอแลนด์ ที่ต้องพ่ายให้กับเบอร์นี แซนเดอร์ส
ชัยชนะรอบนี้ ทำให้ทรัมป์ มีคะแนนไปแล้วเกือบร้อยละ 90 หรือมีจำนวน 950 เสียงจากเป้าหมายที่ต้องทำให้ได้ 1,237 เสียงก่อนเดือนกรกฎาคม คะแนนที่นำโด่งเหนือคู่แข่ง ทำให้ โดนัลด์ ทรัมป์ แต่งตั้วตัวเองไปแล้วว่าเป็น “ว่าที่ตัวแทนพรรค” เพื่อเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งถือเป็นการตบหน้าสองคู่แข่งคือ เท็ด ครูซ และ จอห์น เคซิค ที่แม้คะแนนทิ้งห่างแต่ก็เพิ่งออกมาประกาศว่าจะจับมือกันในรัฐที่เหลือ เพื่อทำให้ทรัมป์มีคะแนนไม่ถึงเป้่า และจะได้ทำให้พรรคสามารถเสนอชื่อผู้สมัครรายอื่นเข้ามาแทนได้
ด้านของเดโมเครตนั้น นางฮิลลารี คลันตัน ทำคะแนนนำได้คะแนนที่ 1,622 ขณะที่เบอร์นี แซนเดอร์ส มีคะแนนที่ 1,282 ทั้งคู่ต้องปั่นฝีเท้าเก็บแต้มไปให้ถึงเส้นชัยที่คะแนน 2,383 ก่อนการประชุมใหญ่ของพรรคในเดือนกรกฎาคมนี้
แม้ใครๆ ต่างก็พากันประเมินเบื้องต้นได้แล้วว่า คลินตันคงจะได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตแน่ๆ แต่เบอร์นี แซนเดอร์ส ยังคงยืนยันจะสู้ไปสุดทางเพื่อย้ำถึงนโยบายของเขาให้ปรากฏชัด ส่วนการหาเสียงของฮิลลารี คลินตัน ในระยะหลัง ก็เริ่มเบี่ยงประเด็น ไม่โจมตีแซนเดอร์ส คู่แข่งในพรรคแล้ว แต่พุ่งเป้าไปที่แนวคิดของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่พยายามแบ่งแยกอเมริกาออกเป็นฝักฝ่าย โดยเธอบอกกับชาวอเมริกันว่า ไม่ว่าพวกเขาจะเลือกตัวเธอหรือจะเลือกแซนเดอร์ส ก็ล้วนทำให้อเมริกันเป็นหนึ่งเดียว ดีกว่าจะแบ่งแยกกัน ซึ่งเสียดสีนโยบายทรัมป์ที่มีท่าทีเกลียดชังคนต่างชาติ และยังจะสร้างกำแพงกั้นประเทศในแถบเม็กซิโก
ที่มา: Huffington Post, The Washington Post, BBC